ดูเหมือนว่าการปรับ 3 ตำแหน่ง ด้วยการให้ อิรฟาน ดอเลาะ มาเล่นแบ็คซ้ายที่เขาเคยเล่นให้ ปัตตานี เอฟซี และอีกฝั่งเป็น นาคิน วิเศษชาติ ส่วน อนุศักดิ์ ใจเพชร มาเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ
บอกตรง ๆ ว่าช่วงแรกเล่นกันได้แบบอึดอัดมาก ๆ เนื่องจากทีมชาติไทยไม่อยากจะพลาด จนกระทั่งมาได้จุดลูกโทษด้านหลังครึ่งแรกและนำ 2-0 ต้นครึ่งเวลาหลังจาก ทำให้ทุกอย่างออกมาง่ายมากกว่าเดิม
ส่วนในลูกที่สามที่ได้ก็จำต้องยอมรับว่าการต่อบอลทำเป็นรวดเร็ว แม่นยำ เด็ดขาด และประตูที่ 4 จาก เอกษิษฐ์ ปัญญา ทำให้เขาเปลี่ยนเป็นดาวซัลโวของทีมที่ 2 ลูกจาก 2 แมตช์ไปแล้ว ไหนจะมีช็อตที่รู้ใจระหว่างแกงค์ “กิเลนผยอง” ซึ่ง วีระเทพ ป้อมพันธุ์ ปาดบอลจากซ้ายไปให้ กรวิชญ์ ทะสา ชาร์จจ่อ ๆ ทำให้เป็นประตูตอกฝาโลง เอาชนะ สิงคโปร์ ไปแบบสะใจ 5-0
ของชมว่าชัยชนะวันนี้ การต่อบอลของทีมชาติไทย เริ่มจะเข้าที่เข้าทาง รู้ใจกันมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว บอลทัวร์นาเมนต์ก็แบบนี้ เมื่อหาจุดเปลี่ยนที่สร้างความมั่นใจได้แล้ว รับรองว่าเครื่องติดแน่ ๆ !!
คีย์แมนสำคัญ – เอกนิษฐ์ ปัญญา
พญามังราย เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 25 แห่งหิรัญนครเงินยางเชียงลาว แม้จะเป็นกษัตริย์ที่มีเรื่องเล่าขานในสงคราม แต่ว่าพระองค์ก็เป็นผู้รักในความสงบ
จึงไม่แปลกใจที่หนุ่มน้อยจาก อ.พญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย จะดูเป็นคนเขินอาย ไม่พูด ไม่ค่อยติดโซเชียลมากมายนัก และไม่เคยตอกใครในโลกที่ไร้ตัวตน
เขาก็แค่ก้มหน้าเล่นบอลที่ตัวเองรัก ทำให้ดีที่สุดทั้งยังกับสโมสรและทีมชาติไทย ถึงแม้เจ็บไปนานและฟอร์มเก่า ๆ ยังไม่กลับมา
แต่ว่า 78 นาทีที่เขาอยู่ในสนาม “บุ๊ค” เอกนิษฐ์ ปัญญา ยิง สิงคโปร์ คนเดียว 2 ลูก ให้ทีมชนะ 5-0 กลายเป็นดาวซัลโวของ “ช้างศึก” ไปแล้ว สร้างความมั่นใจให้กับเขาและตอกเสียงวิจารณ์ได้มากทีเดียว